• หน้าแรก
  •  
  • เติมเงิน
  •  
  • รายการสินค้า
  •  
  • วงจรโน๊ตบุ๊ค
  •  
  • ความรู้ไอที
  •  
  • เกี่ยวกับเรา
  •  
  • ติดต่อเรา
  •    
  • สมัครสมาชิก
  •    
  • เข้าสู่ระบบ
  •   
  • ซื้อ-ขายสินค้า

รายการสินค้า -

admin


สมัครเมื่อวันที่ : 2012-08-23 00:17:50


ข้อควรระวังในการขายสินค้าออนไลน์
รายละเอียด : Tip Computer

    ขึ้นชื่อว่าการค้าขายแล้ว ไม่ว่าจะเป็นบนห้าง, แบกะดิน หรืออินเตอร์เน็ต ล้วนมีความเสี่ยงด้วยกันทั้งสิ้น การขายสินค้าออนไลน์ แม้จะมีระบบตรวจสอบของธนาคาร หรือระบบรักษาความปลอดภัยต่างๆ แล้ว แต่ก็มีโอกาสทุจริตเกิดขึ้นได้เหมือนกัน ดังนั้น การค้าขายบนช่องทางนี้ ผู้ขายควรระมัดระวังตรวจสอบข้อมูลให้ดีก่อนส่งสินค้าให้กับผู้ซื้อ ข้อสังเกตุดังกล่าว ได้รวบรวมไว้เป็นข้อๆ ดังนี้



1. เป็นการสั่งซื้อสินค้าโดยไม่มีการระบุชื่อผู้รับ สำนักงาน หรือ บริษัท เช่นให้เลขที่ ตู้ ป.ณ. , ชื่ออาคาร ให้ส่งที่โรงแรม ลานจอดรถ

2. เป็นการสั่งซื้อสินค้าล้อทใหญ่ ๆ จำนวนมาก โดยใช้บัตรเครดิตหลายใบที่มีชื่อแตกต่างกันอาจเป็นการโทรมาสั่ง หรือส่งเป็น Order Form เข้ามา หรือผ่านเน็ต โดยอ้างว่าเป็นลูกค้าของตนอีกทีหนึ่ง กรณีที่เป็น Order Form ให้พิจารณาว่าลายเซ็นต์ลูกค้าแต่ละรายมีทักษะเดียวกันหรือไม่ โดยปกติทั่วไปทักษะการเซ็นชื่อจะมีลักษณะเฉพาะไม่เหมือนกัน หากพบว่าลายเซ็นต์มีทักษะเดียวกันให้ถือว่าผิดปกติ

3. เป็นการให้ชื่อผู้รับสินค้าเป็นคนละคนกับชื่อผู้ถือบัตรซึ่งเป็นผู้ถูกเรียกเก็บเงิน

4. ให้ Billing Address เป็นคนละที่กับ Delivery Address

5. เป็นการสั่งซื้อสินค้าจำนวนมากจากบัตรใบเดียวในระยะเวลาสั้นๆ

6. เป็นการสั่งซื้อสินค้าจำนวนมากจากบัตรหลายใบ ชื่อเดียวกัน หรือชื่อต่างกัน ในระยะเวลาสั้นๆ

7. เป็นการสั่งซื้อสินค้าหลายรายการจากบุคคลเดียวกันในช่วงระยะเวลา ไม่กี่วัน

8. เป็นการสั่งซื้อสินค้าหลายรายการจากบุคคลหลายชื่อแต่ใช้ที่อยู่เดียวกัน

9. พบว่ามีการพยายามทำรายการซื้อหลายครั้ง ผู้ทำรายการเป็นบุคคลเดียวกัน ใช้บัตรหลายๆ ใบ ในเวลาไล่เรี่ยกัน โดยรายการส่วนใหญ่ไม่ผ่านการอนุมัติวงเงิน

10. เป็นการสั่งซื้อสินค้าตัวเดียวกันหลายรายการคล้ายจะนำไปขายต่อ

11. ให้ที่อยู่ในการส่งสินค้าเป็นที่อยู่ในต่างประเทศ และเป็นที่อยู่ซ้ำ ๆ กัน สั่งซื้อจากบุคคลคนเดิม

12. เป็นลูกค้ารายใหม่อ้างว่าจะหาลูกค้ามาสั่งซื้อ ให้สังเกตที่อยุ่ที่ให้ส่งสินค้าหากเป็นที่อยู่เดียวกันถือว่าผิดปกติ

13. เป็นการสั่งซื้อสินค้าจากคนไทยแต่ให้ที่อยู่ในการส่งสินค้าไปเป็นที่อยู่ในต่างประเทศ

14. เป็นลูกค้าชาวต่างประเทศ และให้ส่งสินค้าไปต่างประเทศ เมื่อประเมินค่าขนส่งแล้วไม่คุ้มกับราคาสินค้าซึ่งโดยปกติผู้ถือบัตรทั่วไปไม่ทำกัน

15. เป็นลูกค้าชาวต่างประเทศให้ที่อยู่ในประเทศไทย ที่อยู่ดังกล่าวไม่อยู่ใน Areas ที่ชาวต่างประเทศพักอาศัยหรือทำธุรกิจ

16. อ้างว่าเป็นชาวต่างประเทศ ซึ่งจริง ๆ ไม่ใช่ ให้สังเกตลักษณะการเขียน E-Mail โต้ตอบ สำนวนการใช้ภาษาของคนไทยกับคนต่างประเทศจะต่างกัน

17. ขอให้ส่งสินค้าด่วนและโทรมาเร่งบ่อยๆ

18. เป็นการสั่งซื้อสินค้าจาก Free Email Address



และต่อไปนี้เป็นคำแนะนำจากธนาคาร ที่มีให้สำหรับร้านค้าปฏิบัติเมื่อเห็นคำสั่งซื้อ



1. จัดให้มีเจ้าหน้าที่คอยตรวจสอบรายการผิดปกติ หากพบรายการน่าสงสัยให้ตรวจสอบกับธนาคารผู้ออกบัตรก่อน และยังไม่ส่งสินค้าจนกว่าจะได้ข้อสรุปว่าเป็นการสั่งซื้อจากเจ้าของบัตรจริงหรือไม่

2. ควรมีการเก็บประวัติและข้อมูลลูกค้าและแยกลูกค้าออกเป็น 2 กลุ่ม คือ กลุ่มลูกค้าใหม่และกลุ่มลูกค้าเก่า ลูกค้าเก่ารายใด ที่เคยมีประวัติเรียกเก็บไม่ได้เนื่องจากการปฏิเสธรายการใช้หรือเป็นรายการทุจริต ให้ระมัดระวังการสั่งซื้อสินค้าในครั้งต่อไป ข้อมูลดังกล่าวควรเก็บไว้เป็น File ที่สามารถ Sort และจัดลำดับเรียงวันเวลาได้ เมื่อตรวจพบว่ามีข้อมูลซ้ำ ๆ กัน ให้เริ่มระมัดระวังและขอตรวจสอบกับธนาคารก่อน ข้อมูลที่สำคัญคือ ชื่อผู้ซื้อ ชื่อผู้รับสินค้า สถานที่ให้ส่งสินค้า

3. ลูกค้ารายใดที่เคยมีปัญหาเป็นบัตรทุจรติให้เก็บข้อมูลในลักษณะ Blacklist File และมีการตรวจเช็ค Order ใหม่ๆ กับ Blacklist File ทุกครั้งก่อนทำการส่งสินค้า ข้อมูลที่ควรตรวจสอบ คือ ชื่อผู้ซื้อ ชื่อผู้รับสินค้า สถานที่ให้ส่งสินค้า

4. สำหรับลูกค้ารายใหม่ที่มีการสั่งซื้อสินค้าล๊อทใหญ่จำนวนเงินสูง ก่อนที่จะมีการส่งสินค้าควรมีการขอข้อมูลเพิ่มเติมจากผู้สั่งซื้อสินค้า เพื่อเป็นข้อมูลประกอบการพิจารณาว่าเป็นการผิดปกติหรือไม่ ข้อมูลที่ขอ เช่น ชื่อธนาคารผู้ออกบัตร หมายเลข Passport / บัตรประชาชน เบอร์โทรศัพท์ที่ติดต่อ (แยกเป็นที่บ้าน/ที่ทำงาน) หากจำเป็นจริงๆ ให้ Verify กับธนาคารผู้ออกบัตร

5. ตรวจสอบข้อมูลที่ลูกค้าให้ไว้ว่าเป็นที่อยู่จริงและสามารถติดตามตัวได้กรณีเกิดปัญหาขึ้นในภายหลัง เช่น ควรตรวจเช็คเบอร์โทรศํพท์ว่าเป็นเบอร์จริงหรือไม่ (ลองโทร) เบอร์โทรศัพท์ที่ให้ขึ้นต้นด้วยหมายเลขที่เป็นเบอร์ที่อยู่ใน Areas เดียวกับที่อยู่ที่ให้ไว้หรือไม่ ก่อนการส่งสินค้าควรโทรเข้าไปขอสายชื่อผู้ซื้อ แจ้งว่าจะมีการส่งสินค้า กรณีตรวจพบข้อมูลที่ให้ไม่ถูกต้อง เช่น เบอร์โทรศัพท์ติดต่อไม่ได้ ผู้ซื้อมีพฤติกรรมแปลกๆ เช่น มีการเปลี่ยนข้อมูลใน Registration Member File เพื่อไม่ให้มีการติดต่อได้ ไม่ควรส่งสินค้า

6. ไม่ควรรับทำรายการที่ให้มีการเรียกเก็บและส่งสินค้าเป็นคนละที่กัน เช่นเรียกเก็บคนหนึ่งที่อยู่หนึ่ง ส่งสินค้าให้กับคนหนึ่งอีกที่อยู่หนึ่ง

7. ในขั้นตอนการส่งมอบสินค้า ก่อนการเซ็นชื่อรับสินค้า ควรมีการตรวจสอบ (Verify) ผู้รับสินค้าว่าเป็นตัวตนจริงหรือไม่และเป็นคนเดียวกับผู้ซื้อ โดยอาจจะใช้วิธีให้เจ้าหน้าที่ขอดูบัตรประจำตัวประชาชน/ Passport และจดหมายเลขไว้และ/หรือตรวจเช็คกับเอกสารต้นทาง หรือขอดูบัตรเครดิตใบที่สั่งทำรายการและตรวจสอบว่าชื่อผู้ถือบัตรตรงกันกับชื่อผู้สั่งซื้อ และหมายเลขบัตรตรงกันกับรายการที่สั่งซื้อ โดยโทรเข้ามาเช็คที่ธนาคารก่อน กรณีผู้รับสินค้าไม่เป็นไปตามชื่อที่ระบุเป็นผู้ทำรายการซื้อ ให้ตรวจสอบกับธนาคารก่อน และยังไม่ส่งมอบสินค้า



ทั้ง 7 ข้อนี้ก็เป็นข้อคำนึงที่ทางธนาคารรวบรวมไว้เป็นข้อคิดสำหรับผู้ประกอบการที่จะทำการค้าออนไลน์ ซึ่งจะเห็นว่ามีความเสี่ยงเหมือนกับช่องทางการค้าปกติ (ต้องตั้งสำรองสินค้าสูญหาย-เผื่อหนี้สูญ) แต่เหนืออื่นใดแล้ว ผมเชื่อว่าการค้าขายจะบรรลุผลได้ทุกฝ่ายต้องยืนอยู่บนความสุจริตใจ แม้ขั้นตอนบางอย่างอาจดูยุ่งยากสำหรับผู้ซื้อแต่หากเขาบริสุทธิ์ก็ต้องพร้อมให้ตรวจสอบ



ข้อเท็จจริงประการหนึ่งที่ผมเจอก็คือยุคบัตรเครดิตเฟื่องฟู ลูกค้าบางรายมอบหมายให้ร้านค้าถือบัตรเครดิตของตนเองไว้เลย เวลามีสินค้าใหม่ๆ มาเพียงอีเมล์มาบอกให้เขาไปดูเว็บไซต์เท่านั้น ถ้าเขาชอบใจสินค้าชิ้นไหน เขาแค่อีเมล์มาบอกจำนวนและรหัสสินค้าเท่านั้น ร้านค้าทำรายการรูดบัตรของเขาไปได้เลย



เรื่องดี ๆ แบบนี้ ก็มีเกิดขึ้นในโลกไซเบอร์



ทิปจาก www.itforsme.com



COMPUTER.TODAY

-------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
บริการ ซ่อม ประกอบ อัพเกรด คอมพิวเตอร์ โน๊ตบุ๊ค ปริ้นเตอร์ อุปกรณ์ต่อพ่วง ปรึกษาปัญหาคอมพิวเตอร์
แนะนำการเลือกซื้อ สินค้า ไอที บริการ คอมพิวเตอร์ พื้นที่ จ.ลำปาง และจังหวัดใกล้เคียง โทร 054-010429 , 083 - 3235992
Copyright © online-ccs.com / Facebook : comcenter.service

ส่งซ่อม โน๊ตบุ๊ค Notebook ผ่าน EMS ทั่วประเทศ ซ่อม โน๊ตบุ๊ค กรุงเทพมหานคร , ซ่อม โน๊ตบุ๊ค กระบี่ , ซ่อม โน๊ตบุ๊ค กาญจนบุรี , ซ่อม โน๊ตบุ๊ค กาฬสินธุ์ , ซ่อม โน๊ตบุ๊ค กำแพงเพชร , ซ่อม โน๊ตบุ๊ค ขอนแก่น , ซ่อม โน๊ตบุ๊ค จันทบุรี , ซ่อม โน๊ตบุ๊ค ฉะเชิงเทรา , ซ่อม โน๊ตบุ๊ค ชลบุรี , ซ่อม โน๊ตบุ๊ค ชัยนาท , ซ่อม โน๊ตบุ๊ค ชัยภูมิ , ซ่อม โน๊ตบุ๊ค ชุมพร , ซ่อม โน๊ตบุ๊ค เชียงราย , ซ่อม โน๊ตบุ๊ค เชียงใหม่ , ซ่อม โน๊ตบุ๊ค ตรัง , ซ่อม โน๊ตบุ๊ค ตราด , ซ่อม โน๊ตบุ๊ค ตาก , ซ่อม โน๊ตบุ๊ค นครนายก , ซ่อม โน๊ตบุ๊ค นครปฐม , ซ่อม โน๊ตบุ๊ค นครพนม , ซ่อม โน๊ตบุ๊ค นครราชสีมา , ซ่อม โน๊ตบุ๊ค นครศรีธรรมราช , ซ่อม โน๊ตบุ๊ค นครสวรรค์ , ซ่อม โน๊ตบุ๊ค นนทบุรี , ซ่อม โน๊ตบุ๊ค นราธิวาส , ซ่อม โน๊ตบุ๊ค น่าน , ซ่อม โน๊ตบุ๊ค บึงกาฬ , ซ่อม โน๊ตบุ๊ค บุรีรัมย์ , ซ่อม โน๊ตบุ๊ค ปทุมธานี , ซ่อม โน๊ตบุ๊ค ประจวบคีรีขันธ์ , ซ่อม โน๊ตบุ๊ค ปราจีนบุรี , ซ่อม โน๊ตบุ๊ค ปัตตานี , ซ่อม โน๊ตบุ๊ค พระนครศรีอยุธยา , ซ่อม โน๊ตบุ๊ค พังงา , ซ่อม โน๊ตบุ๊ค พัทลุง , ซ่อม โน๊ตบุ๊ค พิจิตร , ซ่อม โน๊ตบุ๊ค พิษณุโลก , ซ่อม โน๊ตบุ๊ค เพชรบุรี , ซ่อม โน๊ตบุ๊ค เพชรบูรณ์ , ซ่อม โน๊ตบุ๊ค แพร่ , ซ่อม โน๊ตบุ๊ค พะเยา , ซ่อม โน๊ตบุ๊ค ภูเก็ต , ซ่อม โน๊ตบุ๊ค มหาสารคาม , ซ่อม โน๊ตบุ๊ค มุกดาหาร , ซ่อม โน๊ตบุ๊ค แม่ฮ่องสอน , ซ่อม โน๊ตบุ๊ค ยะลา , ซ่อม โน๊ตบุ๊ค ยโสธร , ซ่อม โน๊ตบุ๊ค ร้อยเอ็ด , ซ่อม โน๊ตบุ๊ค ระนอง , ซ่อม โน๊ตบุ๊ค ระยอง , ซ่อม โน๊ตบุ๊ค ราชบุรี , ซ่อม โน๊ตบุ๊ค ลพบุรี , ซ่อม โน๊ตบุ๊ค ลำปาง , ซ่อม โน๊ตบุ๊ค ลำพูน , ซ่อม โน๊ตบุ๊ค เลย , ซ่อม โน๊ตบุ๊ค ศรีสะเกษ , ซ่อม โน๊ตบุ๊ค สกลนคร , ซ่อม โน๊ตบุ๊ค สงขลา , ซ่อม โน๊ตบุ๊ค สตูล , ซ่อม โน๊ตบุ๊ค สมุทรปราการ , ซ่อม โน๊ตบุ๊ค สมุทรสงคราม , ซ่อม โน๊ตบุ๊ค สมุทรสาคร , ซ่อม โน๊ตบุ๊ค สระแก้ว , ซ่อม โน๊ตบุ๊ค สระบุรี , ซ่อม โน๊ตบุ๊ค สิงห์บุรี , ซ่อม โน๊ตบุ๊ค สุโขทัย , ซ่อม โน๊ตบุ๊ค สุพรรณบุรี , ซ่อม โน๊ตบุ๊ค สุราษฎร์ธานี , ซ่อม โน๊ตบุ๊ค สุรินทร์ , ซ่อม โน๊ตบุ๊ค หนองคาย , ซ่อม โน๊ตบุ๊ค หนองบัวลำภู , ซ่อม โน๊ตบุ๊ค อ่างทอง , ซ่อม โน๊ตบุ๊ค อุดรธานี , ซ่อม โน๊ตบุ๊ค อุทัยธานี , ซ่อม โน๊ตบุ๊ค อุตรดิตถ์ , ซ่อม โน๊ตบุ๊ค อุบลราชธาน