สาเหตุที่ไทยต้องใช้อีคอมเมิร์ช

รายละเอียด :

    สองคำถามยอดฮิตที่เจอบ่อย ไม่ว่าจะเป็นการถามผ่านเว็บไซต์นี้ เวลาไปบรรยายที่ไหน ก็คือ หนึ่ง จะเริ่มต้นทำอีคอมเมิร์ชอย่างไร คำถามแรกนั้น เคยตอบไปเยอะแล้ว ทั้งเขียนลงบทความตามวารสาร หรือนิตยสาร SME TODAY เป็น 3 ตอนจบ ถ้าอ่านครบและเข้าใจก็น่าจะพอจับแนวทางการเริ่มต้นได้



คำถามที่สอง เมืองไทยจะใช้พาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ซื้อขายกันอย่างจริงๆ จังๆ หรือ ?

คำตอบนี้ผมค่อนข้างมั่นใจว่า "จริง" ครับ มีเหตุผลสนับสนุนดังต่อไปนี้



1. ธุรกิจยุคใหม่ เป็นยุคที่ต้องแข่งขันกันสูง แต่ยังหวังผลในด้านกำไรอยู่ การที่จะได้กำไรมาก ต้องขายให้มาก หรือลดค่าใช้จ่าย และการใช้เทคโนโลยีก็สามารถตอบสนองได้ทั้งการขยายตลาด และลดค่าใช้จ่ายในการติดต่อสื่อสาร จะสังเกตุเห็นว่าทุกวันนี้ ร้อยละ 80 ของบริษัทส่งออกไทยต้องมีเว็บไซต์ หรืออีเมล์กันแล้ว ดังนั้นถ้าต้องลงสนามนี้ หนีไม่พ้นต้องทำอีคอมเมิร์ช



2. สภาพการจราจร ตอนนี้มีผู้บริโภคจำนวนไม่น้อยที่เริ่มเอือมระอากับการเดินทางไปซื้อของแล้วต้องติดขัดอยู่บนถนนเป็นเวลานานๆ อีกทั้งค่าน้ำมันที่มีแนวโน้มจะสูงขึ้น ทั้งเวลาและค่าใช้จ่ายเป็นต้นทุนของลูกค้าทั้งสิ้น หากการขยายตัวของสินค้าบนอินเทอร์เน็ต และมีผู้ประกอบการแข่งขันด้านการให้บริการอย่างมีคุณภาพมากขึ้น ในราคาที่สมเหตุสมผล ผู้บริโภคก็สนใจที่อยากจะใช้บริการซื้อของผ่านเครือข่ายอินเทอร์เน็ตอยู่ไม่น้อย (กล้องดิจิตอลรุ่นเดียวกันบางยี่ห้อ ท่านสามารถซื้อบนอินเทอร์เน็ตได้ในราคาถูกกว่าท้องตลาดตามปกติถึง 1 พันบาท และไม่ต้องเสียเวลาเดินทางมาด้วย...เพียงแต่จะทำอย่างไรให้คนซื้อกล้องรู้จักเว็บไซต์นี้)



3. ความน่าเชื่อถือ ปัญหาใหญ่ประการหนึ่งที่คนไทยไม่ซื้อสินค้าบนอินเทอร์เน็ต เพราะไม่รู้จักผู้ขายการที่สามารถจำหน่ายสินค้าได้ในราคาถูก อาจนำสินค้ามาย้อมแมว หรือคุณภาพไม่ดีมาตบตา แต่ปัญหานี้กำลังได้รับการแก้ไข ผู้ให้บริการเว็บไซต์ อย่างเวโลคอล เองได้ตระหนักถึงสิ่งเหล่านี้มาตลอด จึงพยายามสร้างร้านค้าบนดินเพื่อมาแก้จุดอ่อนนี้ โดยเลือกผู้ผลิตสินค้าคุณภาพดี และรับผิดชอบ มารวมกลุ่มกัน พร้อมจัดตั้งเป็นศูนย์อีคอมเมิร์ช เวลาที่ลูกค้าซื้อสินค้าบนเว็บไซต์มีปัญหาก็นำมาเปลี่ยนที่ศูนย์ฯได้ หรือถ้าไม่แน่ใจว่าสินค้าบนเว็บไซต์จะดีเหมือนกับภาพที่ดูผ่านจอมอนิเตอร์หรือเปล่าก็สามารถนั่งรถไฟฟ้า มาลงที่สถานีช่องนนทรี จับต้องของกันก่อนได้ ซึ่งเชื่อว่าด้วยทิศทางอย่างนี้ทั้งผู้ซื้อและผู้ขายก็จะเรียนรู้จักการไว้เนื้อเชื่อใจกันและกันมากขึ้น ครั้งต่อไปก็สามารถติดต่อซื้อขายผ่านอินเทอร์เน็ตกันได้โดยตรง



4. สินค้า เป็นตัวแปรสำคัญที่สุดสำหรับการก่อให้เกิดธุรกรรม จะพบว่าถ้าคนกรุงเทพ ต้องการซื้อสินค้าสักอย่างหนึ่ง เมื่อเข้าไปในห้างสรรพสินค้าก็สามารถที่จะเลือกได้อย่างมากมายอยู่แล้ว ดังนั้นสินค้าที่จะนำมาขายบนอินเทอร์เน็ต จึงควรมีเอกลักษณ์ และหาไม่ได้ง่ายนักในช่องทางการค้าปกติ ดังนั้นถ้ามีสินค้าที่มีความแปลกใหม่ และให้คุณค่าสูงสำหรับกลุ่มเป้าหมายที่ใช้อินเทอร์เน็ตเป็น ก็สามารถก่อให้เกิดการซื้อขายผ่านเว็บไซต์ได้อย่างแน่นอน ในปีที่ผ่านมาจะพบว่าคนไทยจำนวนไม่น้อยที่ซื้อของผ่านเว็บไซต์ต่างประเทศ เช่น หนังสือ เสื้อผ้า กระเป๋า ซึ่งว่าไปแล้วสินค้าเหล่านี้ก็มีเพียงการออกแบบด้วยสติปัญญาที่แตกต่างกัน



เอาแค่เพียงสี่ปัจจัยนี้ก่อน ก็พอที่จะสะท้อนภาพให้เห็นว่าอย่างไรเสียเมืองไทยคงต้องใช้อีคอมเมิร์ชอย่างแน่นอน

แต่จะตื่นตัวอย่างจริงๆ จังๆ เมื่อไรนั้น ก็คงต้องขึ้นอยู่กับสภาพแวดล้อม และความพร้อมของแต่ละคู่ค้า



ทิปจาก www.itforsme.com