เหตุผลที่ Windows ReadyBoost สามารถเพิ่มสมรรถนะการทำงานให้กับระบบได้ก็เนื่องจากว่า ระบบปฏิบัติการจะสามารถดึงข้อมูลที่เก็บไว้ในหน่วยความจำแฟลชได้เร็วกว่าบนฮาร์ดดิสก์นั่นเอง ผลลัพธ์จึงทำให้การตอบสนองการทำงานของพีซีเร็วขึ้น และประกอบกับการใช้เทคโนโลยี SuperFetch ยิ่งทำให้ระบบสามารถตอบสนองการทำงานได้เร็วยิ่งขึ้นไปอีก

โม้มาเยอะแล้ว ขั้นตอนการเพิ่มประสิทธิภาพความเร็วของการทำงานให้กับวิสต้าด้วย ReadyBoost สามารถทำได้ง่ายมาก ขั้นแรกให้คุณใส่หน่วยความจำแฟลชจะเป็นธัมบ์ไดรฟ์ยูเอสบี หรือการ์ดหน่วยความจำ SD หรือ CF ก็ได้เข้าไปในคอมพิวเตอร์ของคุณ ถ้าหน่วยความจำที่ใส่เข้าไปมีพื้นที่เหลือ และมีความเร็วมากพอ Vista จะพร้อมพ์ขึ้นมาให้ทราบว่า สามารถเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานด้วยแฟลชไดรฟ์ของคุณได้

ในกรณีที่คุณไม่ได้เลือกออปชัน ReadyBoost ให้กับไดรฟ์ยูเอสบีก่อนหน้านี้ คุณก็ยังสามารถต้องเปิดการทำงาน Windows ReadyBoost ให้กับไดรฟ์ยูเอสบี ซึ่งมีขั้นตอนดังนี้

• เปิดหน้าต่าง Windows Explorer แล้วคลิ้กเข้าไปใน Computer


• คลิกขวาบนไดรฟ์ USB เลือกคำสั่ง Properties


• คลิกแท็บ ReadyBoost ถ้าไม่พบแท็บดังกล่าว ก็แสดงว่า ไดรฟ์ยูเอสบีที่ใช้มีสเปกต่ำกว่ามาตรฐานการใช้งานในลักษณะนี้ ลองหาไดรฟ์ยูเอสบีตัวใหม่มาดีกว่า


• คลิกเรดิโอบัตตันหน้าข้อความ Use This Device แล้วกำหนดขนาดของหน่วยความจำที่จะสำรองไว้ให้ใช้โดย Windows ReadyBoost


• คลิ้กปุ่ม OK

เพียงแค่นี้ ระบบปฏิบัติการ Windows Vista ก็จะสามารถใช้ไดรฟ์ยูเอสบีของคุณในการเพิ่มความเร็วในการทำงานได้แล้ว ลองไปทำกันดูนะครับ (สเปกขั้นต่ำของไดรฟ์ยูเอสบีที่รองรับการทำงาน ReadyBoost จะต้องมีพื้นที่ว่างอย่างน้อย 64MB คุณสมบัติตรงตามมาตรฐาน USB 2.0 ความเร็วในการอ่านข้อมูลอยู่ที่ 3.5 MB/s และเขียนข้อมูลที่ 2.5 MB/s)